6 ขั้นตอนการวางแผนอาชีพของผู้บริหาร (Executive Career Planning)

  เมื่อคุณกำหนดวิสัยทัศน์อาชีพการงานชัดเจนแล้ว (Career Vision) คุณเห็นภาพตัวคุณในอีกหนึ่งปีสามปีหรือห้าปีข้างหน้าแล้ว เมื่อถึงเวลานั้นในอนาคตคุณน่าจะกำลังทำอะไรอยู่

  คุณมีประสบการณ์การทำงานมาอย่างยาวนานและหนักหน่วง คุณผ่านมาแล้วทั้งการทำงานด้านเทคนิค งานเฉพาะทางต่างๆ และงานบริหารคน บริหารทีม ตอนนี้มาถึงช่วงเวลาที่สำคัญมากสำหรับคุณ คือช่วงที่คุณจะก้าวไปเป็น C-Level (Head of Department)

  แต่โอกาสที่จะขึ้นไปสู่ตำแหน่งนั้นได้มีอยู่จำกัดและในเวลาที่ไม่อาจระบุได้เสมอไป ดังนั้นการเตรียมตัวคุณเองให้พร้อมเสมอจะดีที่สุด การวางแผนอาชีพ career planning แม้เพียงเล็กน้อยก็ส่งผลดีต่อคุณได้ ให้เวลาสักปีสองปีกับตัวคุณเองเพื่อทำตามแผนอาชีพและพัฒนาตนเองเพื่อเตรียมตัวไปสู่ C-Suite กันค่ะ

การวางแผนอาชีพให้ตัวคุณเองเป็นขั้นตอนทำได้ดังนี้ค่ะ

1. เขียนเป้าหมายที่ชัดเจน
  ก่อนอื่นเรามาเริ่มกำหนดเป้าหมายกันก่อนค่ะ 5 ปี 3 ปี และ 1 ปีต่อจากนี้คุณต้องการเป็นอะไร คุณอยากทำอะไร เขียนเป้าหมายของคุณออกมาค่ะ จากเป้าหมายใหญ่ซอยย่อยเป็นเป้าหมายเล็กๆที่ควรทำให้สำเร็จเพื่อไปสู่ความสำเร็จใหญ่ตามที่คุณต้องการ คุณจะเดินทางถึงเป้าหมายได้ก็ต่อเมื่อคุณรู้ว่าคุณกำลังเดินทางไปที่ใด

2. กำหนดกลยุทธ์

  เมื่อคุณกำหนดเป้าหมายชัดเจนออกมาแล้วก็คิดต่อว่าแล้วคุณจะทำมันให้สำเร็จได้อย่างไร อุปสรรคที่จะเกิดขึ้นมีอะไรได้บ้าง  ลองมองเป้าหมายใหญ่ และเป้าหมายที่ย่อยลงมา สำหรับเป้าหมายที่ใกล้ที่สุดลองกำหนด timeline ที่ระบุวันเวลาและสิ่งที่ควรทำว่ามีอะไรบ้าง เพื่อช่วยให้คุณทำเป้าหมายย่อยนั้นให้สำเร็จขึ้นมาก่อน มันอาจเป็นการก้าวขึ้นตำแหน่งงานในองค์กรปัจจุบันของคุณ หรืออาจเป็นการย้ายงานไปสู่องค์กรอื่นที่สอดคล้องกับเป้าหมายต่างๆของคุณก็เป็นได้ และการจะได้งานลักษณะหรือระดับตำแหน่งที่คุณต้องการ คุณต้องสร้างเครือข่าย สร้าง profile ที่ดี มี personal branding ที่เหมาะสมด้วย คุณอาจกำหนดสิ่งเหล่านี้เป็นเป้าหมายย่อยของคุณก็ได้ และการจะทำแต่ละอย่างให้สำเร็จคุณควรทำอย่างไร คุณก็ระบุวิธีการต่างๆ กลยุทธ์ต่างๆที่จะใช้ด้วยค่ะ

3. ประเมินตนเอง
  อะไรคือจุดแข็งของคุณที่จะช่วยให้คุณก้าวหน้าในอาชีพการงานได้บ้าง ลองพิจารณาดูว่าทักษะ ประสบการณ์ ความถนัด ความชอบ ไทพ์บุคลิกภาพใดบ้างที่เอื้อต่อการประสบความสำเร็จในเส้นทางอาชีพของคุณบ้าง แล้วอะไรที่เป็นจุดอ่อนที่ทำให้คุณไม่ก้าวหน้าเท่าที่ควร พฤติกรรมที่ไม่ดี นิสัยบางอย่างที่ไม่เหมาะสม ความรู้บางอย่างที่คุณอาจยังขาดอยู่

  มามุ่งสร้างเสริมความแข็งแกร่งกันค่ะ คุณอาจพัฒนาในสิ่งที่เป็นจุดอ่อนของคุณ แต่จริงๆแล้วการเติมความแข็งแกร่งในจุดแข็งของคุณจะย่นระยะเวลาให้คุณก้าวสู่เป้าหมายได้เร็วขึ้น คุณอาจพิจารณาดูว่ามีชุดทักษะเฉพาะอะไรที่คุณต้องการเพื่อไปให้ถึงระดับที่คุณตั้งเป้าไว้? คุณจะมีทักษะเหล่านี้ได้อย่างไร อะไรที่คุณทำได้ดีและจะดียิ่งขึ้นได้อย่างไร  อะไรที่คุณต้องพัฒนา ใช้เวลาแค่ไหนที่จะพัฒนา

  คุณมีการตอบสนองในทางลบโดยเฉพาะเมื่อต้องเผชิญกับสถานการณ์บางอย่างหรือไม่? ระวังและพยายามกำจัดพฤติกรรมนั้น ค่อยๆปรับเปลี่ยนตัวเองให้เป็นบุคคลที่ตำแหน่งต้องการ

4. พัฒนาแบรนด์ของตัวคุณเอง
Personal Brand 
  การจะก้าวหน้าในอาชีพการงานของคุณ คนอื่นต้องรู้ว่าคุณเป็นใคร คุณเป็นแบรนด์แบรนด์หนึ่ง และเป้าหมายของคุณคือการดึงความสนใจให้คนอื่นมารับรู้และลงทุนกับสิ่งที่คุณมีและโดดเด่นนั้น จึงควรตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณมีประวัติย่อของผู้บริหาร – Executive Resume ที่ดีแล้วหรือยัง LinkedIn Profile ของคุณสอดคล้องกับสิ่งที่คุณตั้งใจจะไปเป็นหรือไม่อย่างไร  Social Media ทุกช่องทางของคุณสอดคล้องกับสิ่งที่คุณต้องการจะก้าวไปสู่สิ่งนั้นหรือไม่ เช่น ต้องการเป็น Head of Department คุณก็ควรต้องสะท้อนภาพผู้บริหารสูงให้ผู้อื่นรับรู้ได้จาก Profile ของคุณ นอกจากนี้สิ่งที่เป็นOffline เช่น สภาวะความเป็นผู้นำ การพูด การนำเสนอ บุคลิกภาพ การบริหารจัดการทีมหรือผู้คนในหน่วยงานของคุณเป็นอย่างไร สะท้อนความเป็นผู้นำที่คุณจะไปเป็นหรือไม่อย่างไร

  แบรนด์ของคุณไม่ได้จำกัดอยู่แค่การหางานเท่านั้น ไม่ว่าคุณจะอยู่ในการสัมภาษณ์หรือเพียงแค่ทำกิจวัตรประจำวันของคุณ วิธีที่คุณนำเสนอตัวเองต่อคนรอบข้างเป็นสิ่งสำคัญ และหากมีโอกาสในการพัฒนาตนเองคุณต้องไม่ละเลยที่จะคว้ามันไว้

  การริเริ่มพัฒนาตนเองแบบใหม่ๆจะช่วยให้คุณเป็นที่รู้จักและโดดเด่นกว่าคนอื่นๆ แน่นอนว่าสิ่งที่คุณสื่อสารแบรนด์ตัวคุณออกมาต้องเป็นเรื่องจริง ไม่พูดเกินจริง ไม่ oversell ตัวเอง แต่นำเสนอตนเองแสดงออกในแบบที่ดีเหมาะสมและสร้าง  แบรนด์ตัวคุณที่คนจะสนใจในทางที่ดีและสร้างคุณค่าให้กับผู้อื่นรวมถึงองค์กรได้

5. สร้างเครือข่าย (Networking) ที่ดี
  คุณไม่มีทางทราบได้เลยว่าคุณจะพบเจอกับใครและเมื่อไหร่ที่ในสักวันหนึ่งจะช่วยคุณเรื่องใดเรื่องหนึ่งได้ ดังนั้นการสร้างมิตรสัมพันธ์ที่ดี สร้าง network เป็นเรื่องสำคัญที่คุณสามารถทำได้ในทุกที่ที่คุณไป คุณอาจได้ความรู้และ      ประสบการณ์ใหม่ๆ เช่นเดียวกับที่คนอื่นอาจสนใจในตัวคุณด้วยเช่นกัน และมีมากมายหลายเคสที่นำไปสู่โอกาสก้าวหน้าในเรื่องการงานและการได้รับการโปรโมตในหน้าที่การงานด้วยค่ะ

  ตัวอย่างการพบเจอคนอื่นๆที่น่าสนใจ เช่นในงานประชุมระหว่างธุรกิจ องค์กร การแสดงการค้า การแสดงสินค้า และ events ต่างๆในสายงานคุณเองด้วย เมื่อรู้จักกันแล้วคุณก็สามารถต่อยอดสร้างเครือข่ายกับเพื่อนใหม่เหล่านี้ได้ในเรื่องต่างๆ การที่เราทำความรู้จักกับคนใหม่ๆ นั้นเราอาจพิจารณาว่าเรามีอะไรที่จะช่วยเหลือพวกเขาได้บ้างในเรื่องประสบการณ์ ความรู้ การให้โอกาสต่างๆ และการให้ไปก่อนนี้เองผูกไมตรีผู้อื่นได้ เมื่อเราต้องการความช่วยเหลือสนับสนุน แน่นอนว่าพวกเขาเหล่านี้ย่อมยินดีที่จะช่วยคุณกลับบ้าง

6. สามารถยืดหยุ่นและปรับแผนตามความเหมาะสมได้
  เป็นไปได้ที่ทุกอย่างอาจไม่ได้เป็นไปอย่างที่เราอยากให้เป็น มันอาจจะไม่ได้ 100% ตามที่เรามุ่งหมายเอาไว้ แต่อาจเป็นเรื่องที่ดีก็ได้ ลองพิจารณาสถานการณ์และปรับแผนตามความเหมาะสมตราบเท่าที่ทุกอย่างยังดำเนินไปในทางที่สอดคล้องกับเป้าหมายใหญ่ในอาชีพการงานของคุณ คุณก็ยังอยู่ไม่หลงทางออกนอกเส้นทางที่จะนำคุณไปสู่ความสำเร็จ

  การจะก้าวหน้าในอาชีพการงานของคุณในระดับผู้บริหารสูงใช้เวลาและการทำงานที่ทุ่มเทอย่างเต็มที่ในงานและต่อตัวคุณเองด้วย ที่สุดแล้วสิ่งใดที่คุณตั้งเป้าหมายไว้ก็สามารถเป็นไปได้ด้วยความมุ่งมั่นตั้งใจจริงของคุณประกอบกับการวางแผนที่ดีและการมีเพื่อนคู่คิดและ mentor ที่ดี คนๆนั้นอาจเป็นโค้ช เป็นผู้บริหารรุ่นพี่ หรือเป็นใครก็ตามที่ช่วยคุณมองสถานการณ์อย่างรอบคอบและรอบด้าน ช่วยคุณเตรียมตัวที่ดีเพื่อบรรลุเป้าหมายให้ได้ในเวลาที่คุณต้องการ

Share this:

Leave a comment: